Menuleft - MarinerThai.Net

หน้าแรก

เว็บบอร์ดชาวเรือ

สารบัญเว็บไซด์ชาวเรือ

เอกสารน่าอ่านไทย

เอกสารน่าอ่านอังกฤษ

สาระไอทีชาวเรือ

แหล่งคนหางานเรือไทย

บทความจากสมาชิก

นิทานชาวเรือ

คนเรือหัวหมอ

คู่มือปฏิบัติงานเรือ

ระบบสื่อสาร-เดินเรือ

พจนานุกรมศัพท์ทางเรือ

ความหมายคำย่อทางเรือ

ข่าวอัพเดทรายวัน

ข่าวสดราคาน้ำมันโลก

รวมข่าวโจรสลัด

รวมข่าวอุบัติเหตุทางเรือ

สนับสนุนเว็บเรา

สถิติผู้เข้าชมเว็บนี้

ติดต่อเรา

เปิดเว็บ 1 ตุลาคม 2545

 

ขณะนี้เวลา | Your Time
10:46:33

Nathalin Group

MarinerThai 2004

TOP Enginerring Group

 

 
 
 

 

 

Nathalin Group

Advertising in marinerthai.net TOP Engineering Group - UAV Thailand

10 อันดับตึกสูงที่สุดในโลก ทะยานแยงแทงเสียดฟ้า

10 อันดับตึกสูงที่สุดในโลก ทะยานแยงแทงเสียดฟ้า


จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์  วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

 โดย : จุชดานิน

ตึกเบิร์จ คาลิฟา ตึกที่สูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน

ใครที่ชื่นชอบความสูงเร่เข้ามา เพราะฉันจะพาไปเล่นของสูง แต่ไม่ใช่แบบเพลงเล่นของสูงของบิ๊กแอสหรอกนะ แต่เป็นพาไปรู้จักกับตึกที่สูงมากถึงสูงที่สุดในโลกในยุคนี้ พ.ศ.นี้ต่างหาก เพราะเมื่อเร็วๆนี้ที่ดูไบได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของตึกใหม่ตึกที่สูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน (ไม่นับรวมหอคอยชมเมืองและหอส่งสัญญาณโทรทัศน์) ซึ่งก็คือตึก "เบิร์จ ดูไบ" และแน่นอนเมื่อมีการเปิดตัวตึกที่สูงที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ ก็ทำให้ตึก "ไทเป 101" ที่เคยสูงที่สุดในโลกได้ถูกทำลายสถิติไปอย่างเป็นทางการด้วยเช่นกัน

"เบิร์จ ดูไบ" (Burj Dubai ) หรือในปัจุบันได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น "เบิร์จ คาลิฟา" (Burj Khalifa) หรือชื่อเต็มๆว่า "ชีค คาลิฟาร์ บิน ซาย์เอ็ด อัล-นาห์ยัน ทาวเวอร์" ซึ่งตั้งชื่อตามประธานาธิบดีของ UAEเพื่อเป็นการให้เกียรติในฐานะผู้นำประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และผู้นำของนครรัฐอาบู ดาบี

สำหรับสิ่งก่อสร้างที่ฉันมองแล้วมีรูปทรงเรียวยาวแหลมสูงคล้ายจรวดแห่งนี้ เริ่มก่อสร้างขึ้นเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาขนาดยักษ์ของเมืองดูไบ เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2547 ออกแบบโดยเอเดรียน สมิธ สถาปนิกชาวชิคาโก ซึ่งเป็นเจ้าเดียวกับผู้ออกแบบ วิลลิสทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เบิร์จ คาลิฟา สร้างแล้วเสร็จในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ที่ผ่านมา และทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา ด้วยความสูง 818 เมตร สูงกว่าอาคารไทเป 101เจ้าของสถิติเดิมถึง 309 เมตร ถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกใหม่ล่าสุดในขณะนี้ ไม่เพียงเท่านั้น เบิร์จ คาลิฟา ยังครองสถิติอาคารที่มีจำนานชั้นมากที่สุดคือ 162 ชั้นอีกด้วย

ตึกไทเป 101ไต้หวัน

นอกจากนี้ยังได้ทำลายสถิติหอคอยที่สูงที่สุดในโลกคือหอคอยซีเอ็น ที่โทรอนโท ประเทศแคนาดา ซึ่งมีความสูง 553.3 เมตร และแซงหน้าสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างมา นั่นคือ เสาอากาศโทรทัศน์ KVLY-TV Mast ที่สหรัฐอเมริกาด้วย และเป็นแชมป์สถิติตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกนับถึงชั้นหลังคา โดยสูงถึง 546 เมตร จากเจ้าของสถิติเดิมคืออาคารไทเป 101 ซึ่งสูง 449.2 เมตร อีกทั้งยังได้ครองสถิติปั๊มคอนกรีตทางดิ่งที่สูงที่สุดในโลกสำหรับการก่อสร้างอาคาร ซึ่งสูงถึง 512.1 เมตร โค้นแชม์อาคารไทเป 101 ที่เคยสูง 439.2 เมตร และยังครองสถิติปล่องลิฟต์ที่ยาวที่สุดในโลกคือ 514 เมตร อีกด้วย

แน่นอนว่าตึกที่สูงรองลงมาก็คือ "ไทเป 101" แห่งไต้หวัน ที่สูง 509 เมตร มีจำนวนชั้นทั้งหมด 101 ชั้น ออกแบบโดย ซี.วาย. ลี สถาปนิกชาวไต้หวัน เริ่มสร้างในปี พ.ศ.2543 แล้วเสร็จและเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2547 ไทเป 10เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีลดอันตรายจากแรงลมอันทันสมัยตามหลักวิทยาศาสตร์ กับการตกแต่งด้วยรูปหัวมังกรที่มุมอาคารทั้ง 4 ด้านทุกปล้องเพื่อขับไล่ภูติผีปิศาจ ตามหลักความเชื่อทางไสยศาสตร์จากคำบอกเล่าของซินแส

เซี่ยงไฮ้เวิลด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์(สูง)สูงลำดับที่ 3 ตั้งคู่กับตึกจินเหมาทาวเวอร์(ต่ำ)ที่สูงลำดับที่ 10 ของโลก

ตึกระฟ้าสูงอันดับ 3 ของโลก คือ "เซี่ยงไฮ้เวิลด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์" ตั้งอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ตึกแห่งนี้สูง 492 เมตร ประกอบด้วยชั้น 101 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น สร้างในปี พ.ศ.2540-2551 ถือเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศจีน แซงหน้าอาคารจินเหมาซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง

ตึกอินเตอร์เนชันแนลคอมเมิร์ซเซ็นเตอร์ ฮ่องกง

ลำดับ 4 เป็นตึก "อินเตอร์เนชันแนลคอมเมิร์ซเซ็นเตอร์" บนเกาลูนตะวันตก ในฮ่องกง มี 118 ชั้น สูง 484 เมตร ก่อสร้างในช่วงปี พ.ศ.2550-2553โดยที่ตั้งของตึกนี้เรียกว่า ยูนิออนสแควร์เฟส 7 ส่วนชื่ออินเตอร์เนชันแนลคอมเมิร์ซเซ็นเตอร์นั้น ถูกประกาศอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2548

ตึกแฝดเปโตรนาส ครองอันดับที่ 5 และ6 ร่วม

สำหรับตึกสูงลำดับที่ 5 และ 6 คือตึก"เปโตรนาส" ที่มีความสูง 452 เมตร จำนวน88 ชั้น ออกแบบโดย เซซาร์ เปลลี สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2541 ตั้งอยู่บริเวณใจกลางย่านธุรกิจของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นอาคารแฝดมี 2หอคอย ได้รับแรงบันดาลใจจากเสาหินทั้ง 5 ของศาสนาอิสลาม ผสมผสานกับโครงเหล็กที่ห่อหุ้มในแต่ละจุด ทำให้เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตามีสะพานเชื่อมลอยฟ้า (Sky Bridge) ในบริเวณชั้นที่ 41 และ 42ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวิวทิวทัศในมุมสูงสุดหวาดเสียวได้ฟรี วันละประมาณ 1,000คน โดยจะต้องมารับตั๋วในตอนเช้าก่อนขึ้นชมในแต่ละรอบ และเนื่องจากอาคารแห่งนี้เป็นตึกแฝดมี 2 หอคอย จึงครองอันดับที่ 5 และ 6 ร่วมกัน อีกทั้งยังครองอันดับตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย

หนานจิงกรีนแลนด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์ ตึกระฟ้าที่สูงเป็นลำดับที่ 7 ของโลก

ตึกสูงอันดับ 7คือตึก "หนานจิงกรีนแลนด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์" มีความสูง 450 เมตร 89 ชั้น ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.2551และกำลังก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยสถาปนิกคนเดียวกับผู้สร้าง เบิร์จ คาลิฟา ตึกหลังนี้จะมีดาดฟ้าชมวิวบนชั้นที่ 72 ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดิน 287 เมตร สามารถมองเห็นภาพมุมกว้างของเมืองหนานกิงและแม่น้ำแยงซี ทะเลสาบสองแห่ง และภูเขาหนิงเจิงได้เป็นอย่างดี

ตึกวิลลิสทาวเวอร์ ในอเมริกา สูงเป็นลำดับที่ 8 ของโลก

ตึกสูงอันดับ 8 ได้แก่"วิลลิสทาวเวอร์"หรือมีชื่อเดิมที่คุ้นหูว่า"เซียรส์ทาวเวอร์"ตั้งอยู่ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา สร้างในปี พ.ศ.2513 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2517 มีความสูง 442 เมตร และมีจำนวนชั้นทั้งสิ้น 108 ชั้น เคยครองตำแหน่งอาคารสูงที่สุดของโลกตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2518 จนถึงปีพ.ศ. 2548 ก่อนจะเสียตำแหน่งให้กับตึกแฝดเปโตรนาสของมาเลเซีย

ตึกกว่างโจวเวสต์ทาวเวอร์ ตึกที่สูงเป็นอันดับที่ 9 ของโลก

ลำดับที่ 9 ได้แก่ “กว่างโจวเวสต์ทาวเวอร์”ตั้งอยู่ที่เมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ตึกระฟ้าขนาด 103 ชั้น สูง 440.2 เมตร ตึกได้เริ่มสร้างในปี พ.ศ.2548 และสร้างถึงจุดสูงสุดในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551 และมีการเปิดตัวในปี พ.ศ.2552 ที่ผ่านมา

ส่วนตึกสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก ได้แก่ "จินเหมาทาวเวอร์" ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มีความสูง 421 เมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2541 มีจำนวนชั้นทั้งหมด 88 ชั้น ซึ่งคนจีนถือว่าเลข 8 เป็นเลขดีเลขนำโชค รูปแบบการก่อสร้างอาคารแห่งนี้เหมือนกับเจดีย์โบราณของจีน จุดที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวได้สูงสุดคือโรงแรมเซี่ยงไฮ้แกรนด์ไฮแอท ในชั้นที่ 53-87 และชั้นที่ 88 จะไม่ใช่พื้นที่ของโรงแรม แต่เป็นส่วนที่เรียกว่า สกายวอล์ค เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นเพื่อดูวิวมุมสูงได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว

ใบหยก 2 ทาวเวอร์

เมื่อรู้จักกับ 10 อันดับตึกระฟ้าที่สูงที่สุดของโลกปัจจุบันนี้แล้ว ใครที่อยากจะท้าทายความสูงก็สามารถเดินทางไปพิชิตกันได้ ส่วนใครที่ยังกล้าๆกลัวๆก็ลองไปชิมลางกันก่อนได้ที่ "ใบหยก 2 ทาวเวอร์" มหานครกรุงเทพฯ ประเทศไทยของเราได้ ซึ่งตึกใบหยก 2 แห่งนี้สูงเป็นลำดับที่ 47ของโลก ด้วยความสูง 304 เมตร จำนวน 88 ชั้นรวมชั้นใต้ดิน ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2540 ในชั้นที่ 77 และ 84 เป็นชั้นสำหรับชมวิว โดยที่ชั้น 84 เป็นดาดฟ้าหมุนได้รอบ ทั้งสองชั้นนี้เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 10.30 ถึง 22.00 น.

แต่ในปี 2553 นี้ตึกใบหยก 2 ที่สูงที่สุดในประเทศไทยอาจจะถูกทำลายสถิติ โดยตึก "โอเชี่ยนวัน" (Ocean 1 Tower) คอนโดใจกลางพัทยา ซึ่งปัจจุบันกำลังก่อสร้างมีความสูง91 ชั้น 327 เมตร สูงกว่าตึกใบหยก 2 ถึง 23 เมตร คาดว่าจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยและเป็นที่พักอาศัยที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย

โอเชี่ยนวัน (Ocean 1 Tower)

 

หมายเหตุ : ข้อมูลลำดับ 10 ตึกสูงที่สุดในโลกอ้างอิงจากวิกิพีเดีย

 


มารีนเนอร์ไทยดอทคอม | MarinerThai.Com

 

จำนวนผู้เข้าชมหน้านี้   6138

 Disclaimed: มารีนเนอร์ไทยดอทคอม ขอสงวนสิทธิ์ในการรับรองความถูกต้องในบทความ ข้อมูล เนื้อหา ภายในเว็บไซด์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล ภาพ เสียง ซอฟแวร์ การเชื่อมโยง(ลิงค์) และ/หรือ บริการอื่นๆ และจะไม่รับผิดชอบในความผิดพลาดในการใช้เนื้อหาดังกล่าวข้างต้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางด้าน การค้า การกระทำ การคาดการณ์ พยากรณ์ การวิจัย และอื่นๆ ซึ่งเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลเฉพาะของท่านผู้เขียนแต่ละรายไป ตลอดจนข้อกำหนดทางด้านลิขสิทธิ์ กรณีที่ท่านส่งบทความที่มิได้ขออนุญาตต่อผู้ครองสิทธิ์แท้จริงนำมาลงไว้ภายในเว็บไซด์นี้

 

 
 

 

 

MarinerThai 2004 Co., Ltd. Cho.Charoen Maritime Instruments

หน้าแรกก | เว็บบอร์ดชาวเรือ | สารบัญเว็บไซด์ชาวเรือ | สมุดภาพเรือเดินทะเล | สนับสนุนเว็บเรา | ติดต่อเรา

© 2002 Mariner Thai Dot Com Mariner Thai Dot Net. All rights reserved - Web designed by .<nv>.

 MarinerThai.Com | MarinerThai.Net | MarinerThai.Org

Contact webmaster: | Organizer : CKN - Cyber Ket Network