ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ทัพเรือภาคที่ 1 ซิว 2 เรือประมงญวนลุกล้ำน่านน้ำไทย

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 07, 13, 23:26:41 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

วันนี้ (9 ม.ค.56)  พล.ร.ท.รุ่งศักดิ์ เสรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขตทัพเรือภาคที่ 1 ได้สังการให้ พล.ร.ต.ประดิษฐ์ ศิริคุปต์รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 สนธิกำลังร่วมกับ กองกำกับการ 5 กองกำกับการตำรวจน้ำ ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 นำเรือหลวงรัตนโกสินทร์ ออกจากชายฝั่ง ท่าเทียบเรือแหลมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทำการออกลาดตระเวน ตรวจจับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม หลังรับแจ้งมีการลับลอบเข้ามาทำประมงในฝั่งอ่าวไทย ด้านทิศตะวันออก


ต่อมา เรือหลวงรัตนโกสินทร์ ได้ออกทำการลาดตระเวนบริเวณ ตอนใต้เกาะจวง ระยะ 53 ไมล์ พบกลุ่มเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ประมาณ 5 ลำ กำลังทอดสมอลอยลำทำประมง เมื่อเห็นเรือของทางการ ได้หนีกระเจิงไปคนละทิศละทาง สามารถจับกุมได้เพียง 2 ลำพร้อมลูกเรือ รวม 21 คน จึงได้ควบคุมเรือ พร้อมลูกเรือทั้งหมด เข้าเทียบยังท่าเทียบเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ดำเนินคดีในข้อหา ทำการประมงรุกล้ำน่านน้ำไทยในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หนีเข้าราชอาณาจักไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.สิทธิทำการประมง

พล.ร.ต.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่ามีเรือประมงเวียดนาม ลุกล้ำเข้ามาทำประมงในอ่าวไทย พื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ สร้างผลกระทบให้กับประมงไทยอย่างมาก รวมถึงสถานะด้านความมั่นคงของชาติ ทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบ ในการปราบปรามจับกุมเรือประมงต่างชาติที่ลุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำไทย ได้ออกทำการลาดตระเวนพื้นที่กันอย่างเข้มงวด ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถจับกุมเรือประมงเวียดนามได้มากเกือบ 30 ลำ อันจะส่งผลให้เห็นว่า อ่าวไทยเป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรใต้ท้องทะเลอย่างอุดมสมบูรณ์ จึงจำเป็นต้นรักษาไว้เพื่อเป็นผลประโยชน์ของชาติสืบไป

ที่มา -




จับเรือประมงเวียดนาม 2 ลำ ลูกเรือ 21 ชีวิต รุกล้ำทำประมงน่านน้ำไทย

วันนี้ (9 ม.ค.56) เวลา 09.30 น. พล.ร.ท.รุ่งศักดิ์ เสรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขตทัพเรือภาคที่ 1 ได้สังการให้ พล.ร.ต.ประดิษฐ์ ศิริคุปต์
รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 สนธิกำลังร่วมกับกองกำกับการ 5 กองกำกับการตำรวจน้ำ ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 นำเรือหลวงรัตนโกสินทร์ออกลาดตระเวนตรวจจับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม หลังรับแจ้งว่า มีการลับลอบเข้ามาทำประมงในฝั่งอ่าวไทยด้านทิศตะวันออก



ต่อมา ขณะเรือหลวงรัตนโกสินทร์ออกลาดตระเวนบริเวณตอนใต้เกาะจวง ระยะ 53 ไมล์ พบกลุ่มเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ประมาณ 5 ลำ กำลังทอดสมอลอยลำทำประมง เมื่อเห็นเรือของทางการได้ขับเรือหนีไปคนละทิศละทาง จับกุมได้เพียง 2 ลำ คือ เรือหมายเลข CM 99362 TS ตัวเรือสีเขียวคาดฟ้า ยาว 8 วา ไต๋พร้อมลูกเรือรวม 10 คน และเรือหมายเลข CM 99689 TS ตัวเรือสีขาวคาดฟ้า ยาว 3 วา ไต๋พร้อมลูกเรือรวม 11 คน จึงควบคุมเรือ พร้อมลูกเรือทั้งหมดเข้าเทียบยังท่าเทียบเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ดำเนินคดีข้อหาทำการประมงรุกล้ำน่านน้ำไทยในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หนีเข้าราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.สิทธิทำการประมง

พล.ร.ต.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีเรือประมงเวียดนามรุกล้ำเข้ามาทำประมงในอ่าวไทยพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ สร้างผลกระทบให้แก่ประมงไทยอย่างมาก รวมถึงสถานะด้านความมั่นคงของชาติ ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบปราบปรามจับกุมเรือประมงต่างชาติ จึงออกลาดตระเวนอย่างเข้มงวด ซึ่งปีที่ผ่านมา สามารถจับกุมเรือประมงเวียดนามได้เกือบ 30 ลำ ชี้ให้เห็นว่า อ่าวไทยมีทรัพยากรทางทะเลอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น ต้องรักษาไว้เพื่อเป็นผลประโยชน์ของชาติสืบไป

ที่มา -