ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง ผู้นำตลาดเรือยอช์ต ด้วยการนำเข้า เรือยอช์ตล็อตใหญ่ที่สุด

เริ่มโดย mrtnews, ม.ค 19, 18, 06:31:56 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

กรุงเทพฯ--17 ม.ค. 61 --บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ - ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเรือยอช์ตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ - เผยเทรนด์ตลาดเรือยอช์ตปีจอมาแรง ความนิยม และไลฟ์สไตล์ใหม่ ดันยอดซื้อพุ่ง


บริษัท โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเรือยอช์ตระดับลักชัวรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์กว่า 23 ปี ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการเรือยอช์ต โดยการนำเรือยอช์ตจากประเทศอังกฤษบรรทุกมากับเรือเดินสมุทรเพื่อนำมาส่งมอบให้กับลูกค้าในภูมิภาค ซึ่งนับเป็นการขนส่งเรือยอช์ตครั้งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายวริศ ยงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า "การขนส่งเรือยอช์ตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมาก และน่าตื่นเต้นอย่างมาก เพราะมีจำนวนเรือที่บรรทุกมามากที่สุด และมีขนาดหลากหลายตั้งแต่ความยาว 62 ฟุต จนถึง ซุปเปอร์ยอช์ตความยาว 100 ฟุต หรือ 30 เมตร โดยหนึ่งใน 9 ลำ เป็นเรือยอช์ตรุ่นใหม่ล่าสุดคือ Princess 62 ที่มีความพิเศษทั้งในด้านเทคโนโลยีการต่อเรือทำให้ลำเรือมีความเบา แข็งแรง ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และการออกแบบภายในตัวเรือที่เน้นดีไซน์ที่โปร่งตา สว่างไสว มีชีวิตชีวา แต่ยังคงความหรูหราตามแบบฉบับ Princess Yachts เอาไว้เหมือนเดิม"

นอกจากเรือยอช์ต Princess 62 แล้ว ยังมีเรือ Princess 64, Princess S65 จำนวน 2 ลำ, Princess 68, Princess 75 Motor Yacht ความยาว 80 ฟุต จำนวน 2 ลำ, Princess 88 Motor Yacht ความยาว 88 ฟุต และเรือซุปเปอร์ยอช์ต Princess 30M ความยาว 100 ฟุต โดยราคาของเรือประมาณ 80 ล้านบาทถึง 450 ล้านบาท หรือรวมทั้งหมดประมาณ 1,400 ล้านบาท

"ยอช์ตทั้ง 9 ลำนี้ ถูกลำเลียงโดยเรือเดินสมุทรจากประเทศอังกฤษ เพื่อนำมาส่งมอบให้กับลูกค้าของ โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง ทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทาง Princess Yachts ผู้ผลิตเรือยอช์ตระดับลักชัวรี่ชั้นนำของโลก ถึงกับบอกว่า นี่เป็นการขนส่งเรือครั้งใหญ่ที่สุดของภูมิภาค ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจเรือยอช์ตของ โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง ได้เป็นอย่างดี " นายวริศ กล่าว

นายวริศ กล่าวเพิ่มเติมว่า "การส่งมอบเรือครั้งใหญ่นี้สะท้อนให้เห็นถึงความนิยม และไลฟ์สไตล์ของคนในสังคมชั้นสูงที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเกิดจาก 4 ปัจจัยหลักคือ 1) เรือยอช์ตสามารถเข้าถึงหาดสวย ทะเลใส ไร้สิ่งรบกวน ไกลจากแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกัน 2) ชีวิตอิสระไร้ขีดจำกัด โดยเรือจะพาเราไปที่ไหนก็ได้ตามที่ต้องการ ที่ไม่เหมือนคนอื่น เปลี่ยนสถานที่ไปได้เรื่อยๆ ไม่จำเจ ซ้ำซาก 3) ความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง เพราะยอช์ตก็คือบ้านอีกหลังที่ไปกับเราได้ทุกที่ มีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น มีระเบียง ซึ่งลูกค้าสามารถออกแบบและตกแต่งเองตามความชอบและไลฟ์สไตล์ส่วนตัว เพื่อให้การพักผ่อนกับครอบครัวคนรักหรือกับเพื่อนฝูงเป็นวันที่พิเศษสุด และ 4) กีฬาผสานมิตรภาพ โดยคนในวงสังคมชั้นสูงมักจะชักชวนเพื่อนฝูง นัดเทียวกันเป็นกลุ่ม 4-5 ลำ ไปเกาะต่างๆทั้งในประเทศ หรือต่างประเทศ ไม่ต่างไปจาก กลุ่มคนที่นิยมรถหรู ที่เสาร์ อาทิตย์ มักจะชักชวนกันไปขับรถเล่น ซึ่งการได้ทำความรู้จัก และทำกิจกรรมร่วมกันกับคนที่มีความชอบที่เหมือนๆกัน ย่อมเข้าใจกัน เอื้ออาทรต่อกัน ก่อให้เกิดมิตรภาพที่ดีต่อกันอย่างยาวนาน"


"นอกจากนั้น หากเราพิจารณาผลิตภัณฑ์มวลรวมเฉลี่ยต่อหัว(GDP per capita) ของประเทศไทยจะพบว่า ปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 เหรียญสหรัฐ (ราวเกือบ 2 แสนบาทต่อคน) และจากสถิติของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เมื่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศเฉลี่ยต่อหัวเพิ่มเป็นประมาณ 10,000 เหรียญสหรัฐ จำนวนคนที่ซื้อจะเริ่มบูม เราจึงได้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างมหาศาลกับศูนย์ซ่อมบำรุงเรือบนเนื้อที่กว่า 80 ไร่ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาทและบริการหลังการขาย เพื่อดูแลลูกค้าของเรา" นายวริศ กล่าว

โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง มีผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับเรือยอช์ตครบวงจร เหมาะสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ หลากหลายขนาดและรูปแบบ ตั้งแต่การจำหน่ายเรือยอช์ตลำใหม่ หรือเรือยอช์ตมือสองจากแบรนด์เรือยอช์ตระดับโลก อาทิ Princess, Jeanneau, Prestige และ Wider การให้บริการเช่าเรือยอช์ต การบำรุงรักษาเรือยอช์ต และงานบริการหลังการขายอื่นๆ ปัจจุบันโบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง มีเรือยอช์ต กว่า 200 ลำที่ลูกค้าใช้งานอยู่ทั่วภูมิภาค

"โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง ยังมีมารีน่าเป็นของเราเองที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง บนเนื้อที่กว่า 500 ไร่ในภูเก็ต ซึ่งสามารถรองรับเรือยอช์ตที่จอดทั้งในน้ำและบนบกกว่า 350 ลำ นอกจากนั้น เรายังมีสถานที่อำนวยความสะดวกภายในมารีน่าไว้บริการอย่างครบครัน รวมถึงศูนย์ซ่อมและบำรุงรักษาเรือยอช์ตที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีด้านการซ่อมบำรุงที่ทันสมัย มีทีมวิศวกรเฉพาะทางชาวต่างชาติ และทีมบริการมากประสบการณ์กว่า 80 คน ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับความสะดวกสบายกับบริการที่เพียบพร้อมในทุกครั้งที่มาถึง" นายวริศ กล่าว

ปัจจุบัน โบ๊ทลากูนยอช์ตติ้ง มีสาขามากที่สุด ถึง 9 แห่งครอบคลุม 5 ประเทศ คือสาขาปีนัง ประเทศมาเลเซีย สาขาจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย สาขาสิงคโปร์ สาขามัลดีฟส์ และ 5 สาขาในประเทศไทย คือ กรุงเทพฯ พัทยา กระบี่ สมุย และภูเก็ต



ที่มา Data & Images -





..