ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

แห่ชิงแหล่งบงกช-เอราวัณ ปตท.สผ.-เชฟรอน-คูเวตร่วมประมูล/กลาง ก.ย. ร่าง TOR เสร็จ

เริ่มโดย mrtnews, ส.ค 18, 17, 06:17:33 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เชฟรอนประกาศพร้อมร่วมประมูล 2 แหล่งก๊าซเอราวัณ-บงกชที่หมดอายุ ด้าน ปตท.สผ.ตั้งเป้าเป็นผู้ชนะการประมูล ยันมีความพร้อมกับระบบแบ่งปันผลผลิต (PSC) ด้านกรมเชื้อเพลิงฯ ฟุ้งมีต่างชาติสนใจร่วมลงทุนเพียบ คาดกลางเดือน ก.ย.นี้ร่างทีโออาร์แล้วเสร็จ


นายสตีฟ กรีน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนเอเชียแปซิฟิกสำรวจและผลิต จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้เชฟรอนอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเข้าร่วมในการประมูลแหล่งสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุ เพื่อคงความต่อเนื่องในการผลิตพลังงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย

"เชฟรอนประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนระยะยาวในประเทศ เราภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับประเทศไทยมาตลอดระยะเวลา 55 ปี โดยได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในอ่าวไทย เรามีผลการดำเนินงานด้วยมาตรฐานและสถิติด้านความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และความรับผิดชอบที่ได้รับการยอมรับ ทั้งยังมุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาสังคมผ่านโครงการต่างๆ มาโดยตลอด" นายสตีฟกล่าว

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ.(PTTEP) กล่าวว่า ปตท.สผ.พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลทั้งในแหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณ และในฐานะที่ ปตท.สผ. เป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติ ซึ่งมีรัฐเป็นผู้ถือหุ้น ดังนั้น จึงตั้งเป้าเป็นผู้ชนะการประมูล เพื่อให้บริษัทไทยมีส่วนร่วมในการผลิตก๊าซธรรมชาติจากทั้ง 2 แหล่ง

ทั้งนี้ ปตท.สผ. มองว่าเป็นการดีที่ ครม.ได้มีมติอนุมัติในหลักการของร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสัญญาแบ่งปันผลผลิตทั้ง 3 ฉบับ และเห็นชอบในประกาศร่างประกาศคณะกรรมการปิโตรเลียม เนื่องจากกฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับนี้ จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ทำให้การประมูลสัมปทานที่จะหมดอายุ ทั้ง 2 แหล่งเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากการประมูลมีความล่าช้ามาระยะเวลาหนึ่งแล้ว

"ปตท.สผ. พร้อมเข้าร่วมประมูลสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุทั้งแหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณ เพื่อมีส่วนร่วมในการผลิตก๊าซธรรมชาติจากทั้ง 2 แหล่ง และให้บริษัทไทยมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ ยืนยันมีความพร้อมกับระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต หรือ PSC เพราะมีประสบการณ์การทำงานภายใต้รูปแบบนี้ในโครงการต่างประเทศ" นายสมพรกล่าว

นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ บริษัท คูเวต ปิโตรเลียม (KUFPEC) ซึ่งเข้าซื้อหุ้นจากบริษัทเชลล์ 22.22% ของแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช ได้รับคำยืนยันว่า ทางคูเวตพร้อมจะร่วมมือกับ PTTEP เพื่อเข้าร่วมประมูลแหล่งบงกช ที่จะหมดอายุในปี 2566 และพร้อมร่วมมือการประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ของไทยด้วย และยังมีบริษัทต่างชาติ อื่นๆ ที่สนใจเข้ามาลงทุนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในกลางเดือน ก.ย.นี้ ร่างทีโออาร์ประมูลจะแล้วเสร็จและเสนอคณะรัฐมนตรีและสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาภายในเดือน ต.ค.60 นี้.



ที่มา Data & Images -




เอกชนคึกพร้อมประมูล! เปิดเงื่อนไขแหล่งก๊าซ "เอราวัณ-บงกช"

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เผยร่างเงื่อนไขทีโออาร์ เปิดประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณและบงกชในอ่าวไทย ที่จะหมดอายุปี 2565-2566 ในระบบพีเอสซี คาดหวังราคาก๊าซธรรมชาติ จะต้องไม่สูงเกินกว่าราคาในปัจจุบัน เหตุหวั่นค่าไฟฟ้าพุ่ง “เชฟรอน” พร้อมเข้าแข่งประมูล ตอกย้ำการเข้ามาลงทุนในไทย 55 ปี ปตท.สผ.ประกาศพร้อมใส่ผลประโยชน์ตอบแทนเต็มพิกัด แข่งขันแย่งทั้ง 2 แหล่งเช่นกัน


นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์การประกาศประมูลแหล่งปิโตรเลียมรายภาค โดยในอ่าวไทย ให้ ใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต (PSC) ดังนั้น กรมฯจะเร่งเสนอร่างประมูลแข่งขัน (TOR) แหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุปี 2565-2566 คือแหล่งเอราวัณและบงกช ต่อคณะกรรมการปิโตรเลียม และเมื่อได้รับการอนุมัติจากกระทรวงพลังงาน ก็จะเสนอให้ ครม.พิจารณาในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อเปิดให้เอกชนเสนอแข่งขันประมูลในเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ ขณะที่การประมูลแหล่งปิโตรเลียมอื่นๆ จะเปิดให้ยื่นแข่งขันได้ภายใน 3 เดือน ถัดจากการพิจารณา 2 แหล่งนี้เสร็จสิ้น

สำหรับหลักเกณฑ์พีเอสซี เป็นการกำหนดวิธีคำนวณจากรายได้ที่พบปิโตรเลียม แบ่งเป็นค่าภาคหลวง 10% กำหนดการหักค่าใช้จ่าย 50% เหลืออีก 40% เป็นการแบ่งครึ่ง หรือ 50% ทั้งรายได้และการลงทุนของภาครัฐและเอกชน หรือที่เรียกว่า PROFIT SHARING โดยส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ภาคเอกชนสามารถเสนอตัวเลขเพื่อแข่งขันได้ ขณะที่ร่างทีโออาร์ ก็จะกำหนดให้เอกชนเสนอ เรื่องการวางแผนผลิตให้ต่อเนื่องในอัตราที่เหมาะสม รวมถึงการต้องจ้างแรงงานคนไทย และราคาก๊าซธรรมชาติ ที่จำหน่ายจะต้องไม่สูงกว่าที่ขุดพบได้ในขณะนี้มากนัก

ขณะเดียวกัน การจะปรับสูตรรับซื้อก๊าซฯจากแหล่งเอราวัณ-บงกช ก็จะมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงทั้งราคาตลาดโลก และมูลค่าการลงทุนใหม่ที่จะสูงขึ้น โดยหลักเกณฑ์ก็จะให้ได้ราคาที่ไม่สูงไปกว่าเดิมมากนัก เพื่อไม่ให้กระทบค่าไฟฟ้า ส่วนพนักงานขุดเจาะสำรวจไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นรายใหม่หรือไม่ จะมีการกำหนดเรื่องการใช้พนักงานคนไทย โดยอาจกำหนดสัดส่วนจ้างงานคนไทย 70-80% ของคนงานรวม รวมถึงผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องมีประสบการณ์ในการสำรวจและผลิตในแหล่งปิโตรเลียมทั่วโลก ที่มีกำลังผลิตไม่น้อยกว่าแหล่งเอราวัณ-บงกช

ในปัจจุบันผู้ดำเนินการหรือโอเปอเรเตอร์แหล่งเอราวัณ ได้แก่ บริษัท เชฟรอน ประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ส่วนแหล่งบงกช คือ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. โดยผู้บริหาร ปตท.สผ.เคยระบุก่อนหน้านี้ว่า เตรียมพร้อมศึกษาเพื่อเข้าประมูลทั้ง 2 แหล่ง ที่มีกำลังผลิตใหญ่ที่สุดในอ่าวไทยปัจจุบันผลิตรวมกัน 2,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

นายสตีฟ กรีน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนเอเชียแปซิฟิกสำรวจและผลิต จำกัด เปิดเผยว่า เชฟรอนประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนระยะยาวในประเทศไทย ซึ่งเชฟรอนอยู่ระหว่างการเตรียมตัว เพื่อเข้าร่วมในการประมูลแหล่งสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุดังกล่าว เพื่อคงความต่อเนื่องในการผลิตพลังงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย และเชฟรอน มีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ กับประเทศไทยมาตลอดระยะเวลา 55 ปี และได้เดินหน้าขยายการลงทุนด้านปิโตรเลียม ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.กล่าวว่า ปตท.สผ.พร้อมเข้าร่วมประมูลแหล่งก๊าซฯทั้ง 2 แหล่ง เพราะ ปตท.สผ.เป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติ จึงมีเป้าหมายที่ต้องชนะการประมูล และจะเสนอผลประโยชน์ที่เหมาะสมที่สุดให้กับภาครัฐ.



ที่มา Data & Images -





..