ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดซ้อมแผนกำจัดคราบน้ำมันป้องกันกระทบสิ่งแวดล้อม

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 09, 13, 06:51:25 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลสู่ทะเลนับว่า เป็นหายนะต่อสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ โดยไม่นับรวมถึงความสูญเสียต่อเศรษฐกิจ การเกิดน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเล เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น การเกิดอุบัติเหตุท่อส่งน้ำมันกลางทะเลรั่ว อุบัติเหตุเรืออับปาง หรือชนกัน การขนถ่ายน้ำมันการถ่ายน้ำมันเครื่อง การระบายน้ำออกจากตัวเรือ


การรั่วไหลของน้ำมันลงสู่ทะเลในปริมาณมาก หรือมีคราบน้ำมันติดค้างอยู่เป็นเวลานานโดยปราศจากการป้องกัน และการบริหารจัดการจะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศทางทะเลผลกระทบที่จะตามมาในอนาคต คือปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคม ทั้งในระดับชุมชนถึงระดับประเทศ

การปนเปื้อนน้ำมันก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทะเลเนื่องจากน้ำมันบนผิวน้ำไปขัดขวางการถ่ายเทก๊าซออกซิเจนระหว่างอากาศ และน้ำทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย สัตว์น้ำขาดออกซิเจน รากต้นไม้ในป่าชายเลนไม่สามารถหายใจได้จึงเป็นการทำลายระบบนิเวศป่าชายเลน

นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสัตว์ มีตั้งแต่สัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น แพลงก์ตอน ปลา สัตว์เปลือกแข็ง เช่น กุ้งเคย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อาหาร นกทะเลเพนกวิน นากทะเล แมวน้ำ สิงโตทะเล แต่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด และมีอัตราการตายสูงมักเป็นพวกนกน้ำ ดังนั้น สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดการฝึกซ้อมแผนทดสอบอุปกรณ์ทุ่นกักคราบน้ำมัน ประจำปี 2555 โดยจำลองสถานการณ์ กรณีพบคราบน้ำมันเตารั่วไหลบริเวณส่วนท้ายเรือ ของท่าเรือ แห่งหนึ่งเป็นวงกว้าง ทางศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวกในการเดินเรือ แจ้งทีมตอบโต้สภาวะฉุกเฉินท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อดำเนินการลากทุ่นกักคราบน้ำมัน เข้าล้อมคราบน้ำมัน พร้อมทั้งนำอุปกรณ์กักเก็บน้ำมัน ลงเก็บคราบน้ำมันเตาที่ล้อมไว้จนหมด โดยมี นายวิฑูรย์ อยู่ทิม ผู้อำนวยการสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เป็นหัวเรือใหญ่ในการฝึกซ้อมแผทดสอบ

นายวิฑูรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด กล่าวว่า ในเขตพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุด มีโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่อยู่ 2 โรง ซึ่งอยู่ในเขตท่าเทียบเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด โรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งนี้มีความตระหนักถึงเรื่องมลพิษที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การเกิดการรั่วไหลของน้ำมัน ในเรื่องนี้ได้มีกลุ่มที่จะมาดูแลกำจัดคราบน้ำมัน เช่น กลุ่มระยอง ส่วนในของท่าเทียบเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งมีอุปกรณ์ เช่น ทุ่นเก็บคราบน้ำมัน สามารถที่จะเก็บล้อมคราบน้ำมันได้ประมาณ 500 เมตร และยังมีเรือเซอร์วิสโบ๊ตเตรียมพร้อมในเรื่องนี้ รวมถึงยังมีออยส์สกิมเมอร์ หรือวิธีดูดเก็บคราบน้ำมัน ซึ่งได้ฝึกร่วมกับบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นบริษัทในการใช้เรือบริการ มีบุคลากรที่มีความพร้อมเสมอ เมื่อเกิดเหตุต้องสามารถดำเนินการได้ทันที และ 24 ชั่วโมงด้วย


การเก็บคราบน้ำมันหรือการใช้สารเคมีนั้นต้องดูการรั่วไหลของคราบน้ำมัน ถ้าเป็นลักษณะคราบน้ำมันทั่วไปเราใช้ไอออยส์ ดิสเปอร์แซนท์ (Oil Dispersant ) ธรรมดาในการที่จะใช้การฉีดพ่น ต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบก่อนว่าเป็นสารเคมีชนิดใด ซึ่งท่าเทียบเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด มีทุกชนิดที่เตรียมไว้ พวกสารเคมีเหล่านี้ ที่ผ่านมาได้กำจัดคราบน้ำมันส่วนมากจะเป็นคราบน้ำมันฟิมส์บาง ๆ เพราะบริเวณที่เกิดขึ้นส่วนมากจะเป็นน้ำมันเตา ฉะนั้นจะไม่ค่อยมีคราบน้ำมันสีดำตามที่อยู่นอก ๆ อ่าวท่าเรือ ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากเรือสินค้าขนาดใหญ่ที่อยู่นอกอ่าวท่าเรือ โดยส่วนมากใช้การฉีดพ่นสารเคมีในการขจัดคราบน้ำมัน จะปล่อยให้เผาผลาญระเหยขึ้นไปเองตามธรรมชาติ และในพื้นที่อ่าวมาบตาพุด นั้นยังไม่เกิดปัญหาการรั่วไหลน้ำมันที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งในอ่าวมาบตาพุด ทางผู้ประกอบการได้ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี
   
ปัญหาเหล่านี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะหากปล่อยไว้ไม่แก้ไข จะกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทะเล และบนฝั่ง รวมทั้งยังกระทบต่อห่วงโซ่อาหารจนทำลายทั้งวงจร การเตรียมความพร้อมทั้งคน เครื่องไม้เครื่องมือ และอุปกรณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องมีไว้ตลอด 24 ชั่วโมง.

มาโนช สนองสุข

ที่มา -