ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา หาเงินทางเน็ต งาน Part-time MLM ทุกรูปแบบ ธุรกิจที่มี downline ปั่นลิก์ SEOเด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

'ปักกิ่ง'ฮึ่มกลับ'รายงานกลาโหมญี่ปุ่น' โตเกียวสำทับโชว์ภาพ'แท่นขุดน้ำมันจีน'

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 24, 15, 06:45:00 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เอเจนซีส์ - จีนประกาศสงวนสิทธิ์ในการทำการตอบโต้ที่จำเป็นตามสถานการณ์ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ว่าญี่ปุ่นใช้นโยบายการต่างประเทศแบบ "ตีสองหน้า" หลังจากที่แดนอาทิตย์อุทัยออกเอกสารสมุดปกขาวกลาโหมซึ่งระบุว่าปักกิ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น โตเกียวยังตามอัดซ้ำอีกในวันพุธ (22 ก.ค. 58) ด้วยการโชว์ภาพถ่ายทางอากาศซึ่งฟ้องว่า จีนตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซใกล้พรมแดนทางทะเลของญี่ปุ่น ตรงพื้นที่ซึ่งทั้งสองต่างอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่


ภาพซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นนำออกเผยแพร่ในวันพุธนั้น มีทั้งภาพถ่ายทางอากาศและไดอะแกรมแสดงตำแหน่งของบรรดาแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเลของจีน โดยที่โตเกียวระบุว่า แท่นขุดเจาะเหล่านี้ตั้งอยู่ในจุดที่สามารถขุดเจาะแหล่งน้ำมันและก๊าซใต้ทะเล จากพื้นที่ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกัน

โยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงว่า การที่ปักกิ่งเดินหน้าพัฒนาแหล่งพลังงานไปแต่เพียงฝ่ายเดียว ขณะที่ยังตกลงเรื่องพรมแดนกับญี่ปุ่นไม่ได้เช่นนี้ ถือเป็นการกระทำที่น่าตำหนิ

ญี่ปุ่นบอกว่า มีการนำแท่นขุดเจาะเหล่านี้มายังบริเวณซึ่งเป็นปัญหา ถึงแม้สองชาติได้ตกลงกันในเดือนมิถุนายน 2008 ว่าจะร่วมกันพัฒนาแหล่งพลังงานในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้โตเกียวระบุว่าปักกิ่งได้นำแท่นขุดเจาะเข้ามารวม 16 แท่น โดยมีถึง 12 แท่นที่ขนเข้ามาติดตั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ซูกะยังกล่าวอีกว่า ญี่ปุ่นประท้วงเรื่องการพัฒนาแหล่งพลังงานฝ่ายเดียวของจีนหลายครั้ง แต่ปักกิ่งก็ยังไม่ยอมกลับสู่โต๊ะเจรจาเพื่อหารือข้อตกลงซึ่งทำกันไว้ในปี 2008

อย่างไรก็ดี ซูกะเสริมว่า กรณีนี้จะไม่มีผลต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศที่ดีขึ้นเล็กน้อย นับแต่ที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น ได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และมีการคาดเดากันว่า ทั้งคู่อาจพบกันอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้อีก หลังจากมีโอกาสพูดคุยกันที่กรุงจาการ์ตาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ญี่ปุ่นนั้นสงสัยมานานแล้วว่า จีนอาจละเมิดข้อตกลงในการร่วมพัฒนาแหล่งพลังงาน ซึ่งอยู่ในบริเวณเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (อีอีแซด) ในทะเลจีนตะวันออก ของสองประเทศทับซ้อนกันอยู่ โดยโตเกียวบอกว่า เส้นแบ่งครึ่งระหว่างช่วงห่างของทั้งสองประเทศ ควรถือเป็นเส้นแบ่งอีอีแซดด้วย ทว่า ปักกิ่งยืนกรานว่า เส้นแบ่งแดนต้องขยับเข้าหาญี่ปุ่นมากขึ้น โดยอ้างอิงไหล่ทวีปและลักษณะทางภูมิประเทศอื่นๆ ในมหาสมุทร

การเผยแพร่ภาพถ่ายทางอากาศของญี่ปุ่นคราวนี้ มีขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคาร (21 ก.ค. 58) กระทรวงกลาโหมแดนอาทิตย์อุทัย ได้ออกเอกสารสมุดปกขาวด้านกลาโหมแห่งชาติประจำปี 2015 ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า จีนเป็นภัยคุกคามสำคัญที่สุด อีกทั้งไม่เพียงพูดเรื่องแท่นขุดเจาะของแดนมังกรในทะเลจีนตะวันออกเท่านั้น แต่ยังพาดพิงถึงโครงการถมทะเลของปักกิ่งในทะเลจีนใต้ด้วย ว่าเป็น "ความพยายามข่มขู่" เพื่อครอบครองดินแดนเกือบทั่วทะเลจีนใต้ ซึ่งทำให้นานาชาติกังวล ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า เอกสารล่าสุดนี้ใช้ถ้อยคำกล่าวหาที่ชัดเจนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

จีนนั้นมีข้อพิพาทจากการอ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้กับหลายประเทศ และขณะนี้กำลังเร่งสร้างเกาะเทียมในบริเวณดังกล่าว

นอกจากนั้น ปักกิ่งยังมีข้อพิพาทในการแย่งชิงสิทธิเหนือหมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลจีนตะวันออกกับโตเกียว โดยที่จีนเรียกชื่อว่า "เตี้ยวอี๋ว์" ขณะที่ญี่ปุ่นใช้ชื่อว่า "เซงกากุ" ขณะนี้หมู่เกาะนี้อยู่ในการปกครองของแดนอาทิตย์อุทัย แต่พญามังกรก็ได้ส่งเรือและเครื่องบินไปท้าทายกองกำลังของญี่ปุ่นในบริเวณดังกล่าวอยู่เนืองๆ

หลังจากสมุดปกขาวของญี่ปุ่นถูกเผยแพร่ออกมา ในคืนวันอังคารนั้นเอง กระทรวงกลาโหมจีนได้ออกคำแถลงตอบโต้ว่า การกระทำของโตเกียวฟ้องถึงพฤติกรรมตีสองหน้าของนโยบายการต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในเอเชียแปซิฟิก

คำแถลงระบุว่า จีนจะประเมินมุมมองด้านกลาโหมหรือสมุดปกขาวของญี่ปุ่นดังกล่าวเพิ่มเติม เมื่อมีการเผยแพร่เอกสารฉบับเต็ม จากนั้น จะตอบโต้ตามที่จำเป็นโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์

กระทรวงกลาโหมจีนสำทับว่า รายงานกลาโหมประจำปีของญี่ปุ่นทำให้เกิดความเข้าใจผิดและประสงค์ร้าย จากการสร้างภาพว่ากองทัพจีนเป็นภัยคุกคามรุนแรงอย่างเกินความเป็นจริง และมุ่งยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดระหว่างกัน

ไม่เพียงเท่านั้น หลู กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ก็ออกมาตอบโต้สมุดปกขาวของญี่ปุ่นเช่นกัน ว่าเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงที่ว่า กิจกรรมทางทะเลของปักกิ่งเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมยืนยันว่า หมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์เป็นของจีนมาตั้งแต่สมัยโบราณ และปักกิ่งจะยังคงดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยของตน

ที่มา -




ปักกิ่งจวกญี่ปุ่นโชว์ภาพแท่นขุดเจาะจีนในทะเลพิพาท

ทางการจีนตำหนิญี่ปุ่นอย่างรุนแรง ว่ากระทำการไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง หลังอีกฝ่ายเผยแพร่ภาพถ่ายแท่นขุดเจาะของรัฐบาลปักกิ่งในทะเลตะวันออก น่านน้ำพิพาทระหว่างทั้งสองประเทศ

วันพฤหัสที่ 23 กรกฎาคม 2558 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ว่ากระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ยืนยันการสำรวจและขุดเจาะน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติในทะเลตะวันออก "เป็นไปตามกฎหมาย" การที่ญี่ปุ่นนำภาพแท่นขุดเจาะของจีนออกมาเผยแพร่นอกจากเป็นการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์แล้ว ยังถือเป็นการกระตุ้นความรุนแรงในภูมิภาคอีกด้วย

แถลงการณ์ดังกล่าวของรัฐบาลปักกิ่งมีขึ้นไม่นาน หลังกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเผยแพร่ภาพถ่ายแท่นขุดเจาะ 16 แท่นของทางการจีน ในจำนวนนี้ 12 แท่นเป็นการนำมาติดตั้งภายใน 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมแผนที่ระบุตำแหน่งของแท่นขุดเจาะแต่ละแห่ง ซึ่งตั้งกระจายอยู่ในทะเลตะวันออก ขณะที่นายโยชิฮิดะ ซึกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวตำหนิรัฐบาลปักกิ่งว่าละเมิดข้อตกลงที่ลงนามร่วมกันเมื่อปี 2551 ที่ระบุว่าทั้งสองประเทศจะสำรวจและพัฒนาทะเลตะวันออกร่วมกัน


ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเผยแพร่สมุดปกขาวว่าด้วยนโยบายความมั่นคง เมื่อวันอังคาร และมีเนื้อหาโจมตีการสร้างเกาะเทียมและสิ่งปลูกสร้างที่รวมถึงรันเวย์สำหรับเครื่องบินทหารของจีน บริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นน่านน้ำพิพาทระหว่างรัฐบาลปักกิ่งกับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นกับจีนพิพาทกันอย่างรุนแรงเรื่องการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะในทะเลตะวันออกมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2555 จากการที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ซื้อหนึ่งในเกาะย่อยของหมู่เกาะพิพาท"

ที่มา -




จีนระบุ ญี่ปุ่นสร้างปัญหาในทะเลตงไห่จะไม่เป็นผลดีต่อความร่วมมือของสองฝ่าย

วันที่ 22 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา นายลู่ คาง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการที่ญี่ปุ่นเผยสถานการณ์เกี่ยวกับการที่จีนขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในทะเลตงไห่ว่า การกระทำของญี่ปุ่นเป็นการสร้างความเป็นปรปักษ์กันระหว่างสองประเทศ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อการควบคุมสถานการณ์ในทะเลตงไห่ ตลอดจนการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย

นายลู่ คางกล่าวว่า จีนขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในน่านน้ำของจีน ถือเป็นสิทธิ์ของจีนและอยู่ในอำนาจการควบคุมของจีน หวังว่าญี่ปุ่นจะไตร่ตรองการกระทำของตนอย่างสงบสติอารมณ์ โดยคำนึงถึงหลักการ 4 ประการที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเมื่อปีที่แล้ว เขาย้ำว่า จีนยืนหยัดจุดยืนเกี่ยวกับหลักการว่าด้วยปัญหาทะเลตงไห่ และยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับญี่ปุ่นต่อไป สิ่งสำคัญคือ ญี่ปุ่นควรสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการปฏิบัติตามหลักการดังกล่าว แต่กลับสร้างปัญหาทะเลตงไห่ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการเจรจาและความร่วมมือกันในปัญหานี้เลย

ที่มา -