ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

TTA คาดแนวโน้ม Q2/60 ผลงานดีกว่า Q1/60 ตามค่าระวางเรือสูงขึ้น-คาดปีนี้พลิกมีกำไร

เริ่มโดย mrtnews, เม.ย 29, 17, 05:56:25 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 เมษายน 2560 - นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 1/60 จากการฟื้นตัวของธุรกิจเดินเรือที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมา หลังจากดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ในไตรมาส 1/60 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่กว่า 700 จุด ซึ่งทำให้อัตราค่าระวางเรือเพิ่มขึ้น


อีกทั้งแนวโน้มของบมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ ยังคาดว่าจะมีมีอัตราการเช่าเรือที่อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา และธุรกิจธุรกิจบมจ.พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA) มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น หลังภัยแล้งในประเทศเวียดนามจะลดลง ทำให้ความต้องการใช้ปุ๋ยเพิ่มขึ้น และบริษัทได้ขยายตลาดไปต่างประเทศมากขึ้นทั้งแอฟริกาและฟิลิปปินส์ ส่วนบมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) ก็คาดว่ารายได้จะสูงขึ้น จากปริมาณการขายถ่านหินและราคาขายที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 2/60 บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจอาหารที่บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด (PHC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้น 70% เข้าทำสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ในกิจการพิซซ่า ฮัทในประเทศไทยสามารถเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/60 ซึ่งบริษัทเตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 100 สาขา ภายใน 4-5 ปี จากปัจจุบันมีอยู่ 92 สาขา

ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานในปี 60 มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไร จากปีก่อนที่ขาดทุนอยู่ 418.29 ล้านบาท จากการที่ค่าระวางเรือปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ผู้บริการหลายรายประสบปัญหาขาดทุน ทำให้มีการเลิกกิจการและออกจากตลาดไป ซึ่งส่งผลให้ดีมานด์และซัพพลายเข้าสู่ภาวะสมดุล และธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหินในปีนี้อาจจะแนวโน้มขาดทุนลดลง เนื่องจากราคาถ่านหินปรับตัวดีขึ้นและมีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น


ขณะเดียวกันบริษัทยังมองการเข้าซื้อกิจการอาหารเพิ่มเติม เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจแลขสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ทันที โดยปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดด้วยเงินสดมากถึง 1 หมื่นล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ในระดับต่ำที่ 0.06 เท่า ซึ่งมีความสามารถในการกู้ยืมค่อนข้างมาก ทำให้บริษัทยังคงเดินหน้ามองหาการเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง เพื่อโอกาสการเติบโตของธุรกิจในอนาคต



ที่มา Data & Images -





..