ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

ปตท.สผ. เผยปี 55 กำไร 5.7 หมื่นล้านเพิ่ม 26%

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 09, 13, 07:31:33 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ปตท.สผ.เผยปี 55 กำไรพุ่ง 5.7 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 26% เทียบปีก่อน บอร์ดไฟเขียวปันผลงวดที่ 2 อีก 3 บาท/หุ้น


นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.)(PTTEF)เปิดเผยผลการดำเนินงานก่อนตรวจสอบ (Unaudited) สำหรับปี 2555 ว่า ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานตามปกติจำนวน 1,846 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 57,316 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 378 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือคิดเป็นร้อยละ 26 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 ที่มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 1,468 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 44,748 ล้านบาท) และมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on shareholders' equity) ร้อยละ 21.68

สำหรับรายได้รวมของ ปตท.สผ. และบริษัทย่อยในปี 2555 มีจำนวน 7,021 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 218,137 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 1,336 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับปี 2554 ซึ่งมีรายได้รวม 5,685 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 173,375 ล้านบาท) ส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้จากราคาขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยสำหรับปี 2555 เพิ่มขึ้นเป็น 64.86 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยสำหรับปี 2554 ที่ 55.49 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ประกอบกับปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยปี 2555 สูงขึ้นเป็น 275,923 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากในปี 2554 ที่มีปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 265,047 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ซึ่งปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากแหล่งบงกชใต้ โครงการเวียดนาม 16-1 และโครงการเอส 1

ส่วนค่าใช้จ่ายในปี 2555 มีจำนวน 3,826 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 118,845 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 754 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวม 3,072 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 93,657 ล้านบาท) และ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 19,637 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 601,513 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจำนวน 5,506 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2554 ที่จำนวน 14,131 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 447,842 ล้านบาท)

ปริมาณสำรองปิโตรเลียมพิสูจน์แล้วรวมทุกโครงการของ ปตท.สผ. และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 รวมทั้งหมด 901 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ คิดเป็นน้ำมันดิบและคอนเดนเสท ร้อยละ 29 และก๊าซธรรมชาติ ร้อยละ 71 ทั้งนี้ ปริมาณสำรองพิสูจน์แล้วดังกล่าว ยังไม่รวมปริมาณปิโตรเลียมที่ได้สำรวจพบในโครงการเวียดนาม บี และ 48/95 และ โครงการเวียดนาม 52/97 เนื่องจากยังไม่ได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ (Gas Sales Agreement)

สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ปตท.สผ. ในปี 2555 จำนวน 650 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 142 บาทนั้น เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับเงินจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนหลังหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง) เป็นเงินประมาณ 91,624 ล้านบาท โดย ปตท.สผ. ได้นำเงินดังกล่าวไปชำระคืนเงินกู้ยืมส่วนหนึ่งและ นำไปใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจทั่วไป รวมทั้ง การดำเนินการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม ตลอดจนการขยายกิจการต่างๆ

ความก้าวหน้าที่สำคัญในการดำเนินงานปี 2555 มีดังนี้ โครงการเอส 1 สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบสูงสุดได้ถึง 35,176 บาร์เรลต่อวัน โดยมีอัตราการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยในปี 2555 ประมาณ 28,000 บาร์เรลต่อวัน โครงการบงกช สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 596 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่วนแหล่งบงกชใต้เริ่มการผลิตเมื่อเดือนมิถุนายน 2555 และ สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้ 320 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โครงการซอติก้า ในสหภาพเมียนมาร์ อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างแท่นผลิตหลัก ซึ่งมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 63 โดยคาดว่าจะจัดส่งก๊าซธรรมชาติได้ภายในต้นปี 2557 สำหรับโครงการพีทีทีอีพี ออสตราเลเชีย ได้นำเรือ FPSO เข้าสู่แหล่งมอนทาราแล้ว และดำเนินงานเชื่อมต่อและทดสอบระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตในไตรมาส 1 นี้ โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคส ในประเทศแอลจีเรีย ประสบความสำเร็จในการเจาะหลุมสำรวจโดยพบน้ำมันดิบจำนวน 6 หลุม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจาะหลุมสำรวจอีก 2 หลุมตามแผนงาน


โครงการแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี อยู่ระหว่างการก่อสร้างกระบวนการผลิตและระบบท่อขนส่ง คาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ภายในปี 2557 โครงการแคนาดา ออยล์ แซนด์ เคเคดี มีปริมาณการผลิต Bitumen จากแหล่ง Leismer เฉลี่ยประมาณ 15,700 บาร์เรลต่อวัน และอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อรองรับอัตราการผลิตที่จะขยายเป็น 40,000 บาร์เรลต่อวันในแหล่ง Leismer และอยู่ระหว่างการจัดทำ Final Investment Decision (FID) ของแหล่ง Corner โครงการโมซัมบิก โรวูม่า ออฟชอร์ แอเรีย วัน ได้มีการทำข้อตกลงเบื้องต้น (HOA: Heads of Agreement) กับบริษัท Eni ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการของโครงการโมซัมบิก โรวูม่า ออฟชอร์ แอเรีย โฟร์ โดยจะประสานงานในการดำเนินงานพัฒนาแหล่งก๊าซฯนอกชายฝั่ง และร่วมมือกันวางแผนและพัฒนาการก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวบนบก โดยคาดว่าจะเริ่มผลิต LNG ได้ประมาณปี 2561 – 2562

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช กล่าวสรุปว่า ผลการดำเนินงานปี 2555 เป็นที่น่าพอใจ ปตท.สผ. สามารถเพิ่มการผลิตจากโครงการต่างๆในปัจจุบัน เช่น การติดตั้งแท่นผลิตและเริ่มผลิตก๊าซและคอนเดนเสทจากแหล่งบงกชใต้ การขยายกำลังการผลิตของแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ และ โครงการ 16-1 ในเวียดนาม การแสวงหาแหล่งปิโตรเลียมใหม่ๆ ประสบผลสำเร็จในเกณฑ์สูง คือ พบปิโตรเลียม 43 หลุมจากการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลทั้งสิ้น 54 หลุม โดยเฉพาะการพบแหล่งน้ำมันใหม่ในประเทศแอลจีเรีย

นอกจากนั้นยังประสบความสำเร็จในการขยายการลงทุนไปยังภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก ซึ่งมีศักยภาพก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ รวมทั้งการระดมทุนการขายหุ้นเพิ่มทุน 92,300 ล้านบาทในช่วงปลายปี ถึงแม้การพัฒนาแหล่งมอนทาราในประเทศออสเตรเลียจะประสบปัญหาให้เกิดความล่าช้า ปตท.สผ. ยังมีการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิในอัตรากว่าร้อยละ 24 ซึ่งคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเห็นชอบให้เสนอผู้ถือหุ้น จ่ายเงินปันผลในงวดที่สองในอัตรา 3 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลทั้งปี 2555 ในอัตรา 5.80 บาทต่อหุ้น ปัจจุบัน ปตท.สผ. ลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพปิโตรเลียมซึ่งจะรองรับการผลิตในระยะยาว และมีโครงสร้างทางการเงินที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะเติบโตต่อไปอย่างมั่นคง"

ที่มา -