ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

TTA ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 10-12% ตามธุรกิจขนส่งทางเรือ-ธุรกิจบริการนอกชายฝั่งเต

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 23, 18, 16:09:49 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) - พฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2561 - นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 62 จะเติบโต 10-12% จากปีนี้ เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจหลักทั้งธุรกิจขนส่งทางเรือ, กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง และกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร ถือว่ามีสัดส่วนรายได้รวมกันถึง 85% ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจการลงทุน


ทั้งนี้ ธุรกิจขนส่งทางเรือในปีหน้า บริษัทคาดว่าอัตราค่าระวางเรือจะเติบโตเล็กน้อยหรือทรงตัวเมื่อเทียบกับปีนี้ จากปัจจุบันมีอัตราค่าระวางเรืออยู่ที่ 11,529 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน เนื่องจากมองว่าดีมานด์และซัพพลายจะมีความสมดุลกัน แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกประเทศอยู่บ้าง เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจทำให้ความต้องการใช้เรือลดลง

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนซื้อเรือมือสองเข้ามาเพิ่มอีก 2 ลำ เป็นเรือประเภท Supramax ขนาดบรรทุกเฉลี่ย 58,000 เดทเวทตัน (DWT) วางงบลงทุนไว้ที่ 16-18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ/ลำ จากปัจจุบันบริษัทมีกองเรือรวมทั้งสิ้น 21 ลำ อายุการใช้งาน 11.46 ปี และมีขนาดบรรทุกเฉลี่ย 55,285 เดทเวทตัน (DWT) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรือประเภท Handymax และ Supramax ในการขนส่งถ่านหิน, แร่, ซีเมนต์, ปุ๋ย, สารเคมี และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆ อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าในปี 62 ปริมาณขนส่งสินค้าเทกองจะเติบโต 2.4% และเมื่อเทียบปริมาณกับระยะทางจะเติบโตขึ้น 2.9%

ส่วนธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง คาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ จากปัจจุบันยังมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 36 ล้านบาท เนื่องจากสามารถให้บริการเดินเรือได้ครบ 7 ลำ หลังจากที่ปีนี้หรือในช่วงไตรมาส 1/61 และไตรมาส 2/61 ได้มีการนำเรือเข้าซ่อมบำรุงตามแผนจำนวน 3 ลำ ส่งผลให้มีเรือให้บริการเพียงจำนวน 4 ลำ ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าสัญญาให้บริการที่รอส่งมอบ (Backlog) ประมาณ 129 ล้านเหรียญสหรัฐ (ไม่รวมการรับรู้ธุรกิจขุดเจาะ) โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/61 ราว 17% ส่วนอีก 83% จะรับรู้รายได้เข้ามาในปี 62 อีกทั้งบริษัทยังมีการลดความเสี่ยงในส่วนของธุรกิจขุดเจาะ เนื่องจากมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง รวมถึงยังมีการแข่งขันที่สูงด้วย


นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ทาง PHC เป็นผู้รับสิทธิแฟรนไชส์พิซซ่าฮัทเพียงรายเดียวในประเทศไทย ปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่ 126 สาขาทั่วประเทศ และบริษัท สยามทาโก้ จำกัด (STC) ยังได้รับสิทธิในการเข้าทำสัญญาเฟรนไชส์ของทาโก้เบลล์ (Taco Bell) เฟรนไชส์อาหารเม็กซิกันที่มีชื่อเสียงชั้นนำระดับโลกภายใต้บริษัทยัมแบรนด์สอิงค์ เบื้องต้นมีแผนเปิดสาขาแรกในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้ หรือช้าสุดต้นเดือน ม.ค.62

สำหรับธุรกิจการบริหารทรัพยากรน้ำ โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 80.5% ในบริษัท เอเชีย อินฟราสตรักเชอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (AIM) ผู้ออกแบบก่อสร้างและให้บริการครบวงจรทางด้านการบริหารจัดการน้ำ เพื่อความร่วมมือในธุรกิจการบริหารทรัพยากรน้ำที่มีอยู่ คาดว่าในปี 62 บริษัทจะเข้าประมูลโครงการของการประปานครหลวง สาขามหาสวัสดิ์ มูลค่า 4,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ มองแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/61 จะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/61 และเติบโตเมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วงของโลว์ซีซั่นของธุรกิจเดินเรือที่เข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ขณะเดียวกันธุรกิจบริการนอกชายฝั่งก็เป็นช่วงของโลซีซั่นเช่นเดียวกัน เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรง



ที่มา Data & Images -





..