ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ผุดคลัง - ท่าเรือรับก๊าซ LNG

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 08, 13, 06:46:22 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ปตท.เตรียมลงทุน 3-4 หมื่นล้านบาท ผุดคลัง-ท่าเรือรองรับก๊าซแอลเอ็นจีเฟส 2 เพิ่มอีก 5 ล้านตัน เผยความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มต่อเนื่อง เสนอกพช.อนุมัติในเร็วๆนี้ ฟาก "เฮียเพ้ง" ระบุความต้องการใช้พลังงานในปีนี้เติบโต 5.4% ขณะที่ยอดใช้ไฟฟ้าโต 5-6% มั่นใจรักษาสถานการณ์ไฟฟ้าของประเทศได้


นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) เพิ่มขึ้น ดังนั้นกระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้ ปตท. ศึกษาพื้นที่เพื่อก่อสร้างคลังและท่าเรือรองรับแอลเอ็นจีระยะที่ 2 สามารถรองรับการนำเข้าแอลเอ็นจีได้อีก 5 ล้านตัน จากปัจจุบันรองรับอยู่ 10 ล้านตัน คาดว่าน่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท มากกว่าคลังแอลเอ็นจีเฟสแรกที่มาบตาพุด  เพราะจะต้องหาสถานที่ก่อสร้างแห่งใหม่ และขึ้นอยู่กับความยากง่ายของพื้นที่ด้วย

ทั้งนี้แผนลงทุนดังกล่าวจะเข้าเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ในเร็วๆนี้ โดยมองว่าการลงทุนคลังดังกล่าวเป็นแผนรองรับความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย  และรองรับความต้องการก๊าซที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาก๊าซในประเทศไม่เพียงพอ และมีแนวโน้มสำรองในอ่าวไทยจะลดลง

"ขณะนี้ ปตท.ศึกษาแผนลงทุนคลังรองรับนำเข้าแอลเอ็นจีเฟส 2 ซึ่งต้องศึกษาพื้นที่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3-4 ปี อย่างไรก็ตามเห็นว่าการใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้ามีความปลอดภัยและปล่อยมลพิษน้อย เมื่อเทียบกับถ่านหิน"

สำหรับความคืบหน้าแผนขยายลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) ขณะนี้ ปตท. อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายสถานีบริการเอ็นจีวีเพิ่ม โดยเฉพาะสถานีตามแนวท่อ ซึ่งปัจจุบันความต้องการใช้ก๊าซเอ็นจีวีเติบโต 40% จากปีก่อน แสดงให้เห็นว่าปัญหาเกี่ยวกับก๊าซเอ็นจีวีในปัจจุบัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณสถานีบริการไม่เพียงพอ เพราะปั๊มเอ็นจีวีตามแนวท่อยังรองรับการบริหารไม่เต็ม 100%  ส่วนจะลงทุนอย่างไรนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแผนลงทุนดังกล่าว

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานในปี 2556 คาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องในระดับที่ 5.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือมีการใช้พลังงานรวม 2.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบเท่าน้ำมันดิบ ทั้งนี้เนื่องจากจะมีการใช้พลังงานสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะขยายตัว 4.5-5.5%

"ในส่วนของความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้ คาดว่ามีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในกลุ่มเบนซิน คาดว่าจะมียอดใช้อยู่ที่ประมาณ 21.9 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 2 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่ยอดการใช้ดีเซล คาดว่าจะอยู่ที่ 57.5 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.6% โดยประมาณการราคาน้ำมันเฉลี่ยในปีนี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 108-113 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับปี 2555 เฉลี่ยอยู่ที่ 109.5 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล"

สำหรับความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) คาดว่าในปีนี้จะเติบโตต่อเนื่อง โดยมีการใช้เพิ่มขึ้นทุกภาคส่วน ซึ่งคาดว่าการใช้ก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือนปรับเพิ่มขึ้น 7.4% ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น  2.5% ภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 6.9% และยอดการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี)จะมีการใช้เพิ่มขึ้น 7.6%

ส่วนความต้องการใช้ไฟฟ้าในปีนี้ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ โดยยอดใช้ไฟฟ้าจะโตประมาณ 5-6% หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 1.4-1.5 พันเมกะวัตต์ เทียบกับความต้องการใช้ในปี 2555 ที่อยู่ระดับ 2.677 หมื่นเมกะวัตต์ มั่นใจว่ากระทรวงจะสามารถดูแลสถานการณ์ไฟฟ้าของประเทศได้ ปัจจุบันไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าได้กว่า 3 หมื่นเมกะวัตต์

ที่มา -